Tag Archives: การกลั่นแกล้ง

หนังม้วนเก่าที่ไม่มีใครอยากดูอีกแล้ว

ทุกวันนี้หลายคนคงทราบดีว่าทั่วโลกมีการรณรงค์ในเรื่องของการกลั่นแกล้งกันด้วยวิธีการต่าง ๆ การ bully ถือเป็นพฤติกรรมที่สังคมผู้เจริญแล้วไม่ควรทำไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าหรือลับหลังก็ตาม เพราะไม่มีใครชอบให้ตัวเองถูกบูลลี่แม้แต่ตัวผู้กระทำเองก็ตาม หนึ่งในแวดวงที่ต้องต่อสู้กับการบูลลี่อย่างหนักหนาสาหัสก็คือวงการกีฬา ไม่ว่านักกีฬาชื่อดังขนาดไหน เป็นที่ชื่นชอบของแฟนกีฬาถึงเพียงใดต่างล้วนเคยถูกแฟน ๆ แสดงกิริยาหรือใช้วาจาทิ่มแทงเหมือน ๆ กัน และรายล่าสุดที่ตกเป็นเป้าแบบสด ๆ ร้อน ๆ ก็คือ ปอล ป็อกบา กับกรณีที่ทำให้แมนฯยูไนเต็ดพลาดสามแต้มไปอย่างน่าเสียดาย

ย้อนกลับไปในเกมนัดที่สองของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-2020 คู่มันเดย์ไนท์ที่วูล์ฟแฮมตัน วอนเดอร์เรอร์สเปิดบ้านรับการมาเยือนของอาคันตุกะอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเกมไปได้เพียง 27 นาทีอองโตนี่ มาร์กซิยาลก็เบิกสกอร์ให้ทีมเยือนขึ้นนำเจ้าถิ่น 0-1 จากนั้นวูล์ฟฯมาตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 55 จากลูกยิงสุดสวยของรูเบน เนเวส ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ที่ 1-1 แม้รูปเกมจะเป็นฝั่งทีมเยือนทำได้ดีกว่าแต่การเจาะประตูของเจ้าถิ่นดูจะเป็นเรื่องยาก เมื่อเกมไม่เป็นไปอย่างใจนักเตะทีมปิศาจแดงก็เริ่มออกอาการหัวเสียไม่น้อย จนในที่สุดความกดดันนั้นก็มาผ่อนคลายเอาในนาทีที่ 67 เหตุการณ์ที่ปอล ป็อกบาถูกคอนเนอร์ คัวร์ดี้ นักเตะของวูล์ฟฯขัดขวางการเล่นและล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที

ประเด็นจึงมาเกิดตรงนี้เมื่อป็อกบาที่เรียกจุดโทษได้ขันอาสาสังหารประตูเอง ซึ่งจริง ๆ แล้วมือสังหารจุดโทษที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมมอบหมายหน้าที่ไว้ให้เป็นมั่นเหมาะคือมาร์คัส แรชฟอร์ด และเหมือนโชคลางจะทำให้ป็อกบากลายเป็นผู้ร้ายจนได้เมื่อเขายิงไปติดเซฟผู้รักษาประตูของทีมหมาป่าทำให้เกมนั้นจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 หลังจบเกมกองกลางชาวฝรั่งเศสกลายเป็นเป้าโจมตีทันที ไม่ว่าจะเป็นนักวิจารณ์ อดีตตำนานของสโมสร รวมทั้งแฟนบอล ทุกฝ่ายต่างสวดยับว่าเขาไม่ควรฝ่าฝืนคำสั่งผจก.ทีม ไม่ควรแย่งแรชฟอร์ดยิง นั่นเข้าใจได้เพราะกองกลางตัวตัดผมผิดจริงในกรณีนี้ แต่ที่เกินเลยกว่านั้นคือแฟนบอลจำนวนหนึ่งกลับวิจารณ์เหยียดผิวและวิจารณ์เรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวของกับการแข่งขันเลย การนี้ผู้คนในวงการกีฬาต่างก็ส่ายหน้ากับพฤติกรรมอันน่ารังเกียจที่เหมือนหนังม้วนเก่าย้อนกลับมาอยู่เรื่อย ๆ ในวงการกีฬา

การเหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติ และเหยียดรูปร่างหน้าตาถือเป็นการกระทำที่น่าละอายยิ่ง เพราะผู้ถูกกล่าวร้ายไม่สามารถเลือกเกิดเองได้ พวกเขาถูกโจมตีจากความผิดบาปที่เขาไม่ได้ก่อ ซึ่งนั่นไม่ยุติธรรมเลย ในเมืองไทยเราอาจยังไม่ตระหนักรู้ถึงภัยของการเหยียดหยามกันมากเท่าไรจึงอยากอธิบายให้เข้าใจดังนี้ ในประเทศตะวันตกการเหยียดเรื่องต่าง ๆ ถือว่าซีเรียสมากเพราะผู้ถูกกระทำหลายคนต้องกลายเป็นผู้ป่วยทางใจ นักกีฬาเองก็ไม่พ้นภาวะนี้เช่นกันโดยนักฟุตบอลชื่อดังอย่างอารอน เลนน่อน, แดนนี่ โรส กับอีกหลายคนที่กล้าออกมาเปิดเผยว่าพวกเขากลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและส่วนหนึ่งพยายามจะฆ่าตัวตายมาแล้ว ในส่วนผู้กระทำ ความเกลียดชังต่อเชื้อชาติ สีผิว รูปร่างหน้าตาครั้งหนึ่งเคยทำให้มนุษย์เราปฏิบัติต่อกันเยี่ยงสัตว์ ไร้ซึ่งความเมตตา เพราะมองว่าเชื้อชาตินั้น ๆ สีผิวนั้น ๆ ไม่ใช่คน กล่าวได้ว่าเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงครามที่สร้างความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์มาแล้วเมื่อครั้งอดีต ซึ่งไม่มีใครอยากให้ประวัติศาสตร์นั้นซ้ำรอยอีกครั้งอย่างแน่นอน

ไม่ว่าใครในโลกนี้ต่างก็ไม่ชอบให้ตัวเองถูกผู้อื่นต่อว่าทั้งนั้น กรณีนี้ไม่จำเพาะในวงการกีฬา หรือบุคคลสาธารณะ แต่ในสังคมในชีวิตประจำวันของคนธรรมดา ๆ อย่างเราก็ไม่สมควรมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะการประณามหยามเหยียดไม่ได้สร้างประโยชน์แก่ใครเลย แม้แต่ผู้สุมกองเพลิงแห่งความชิงชังไว้ในอกเองก็ทุกข์ทรมานด้วยถูกเปลวไฟนั้นเผาผลาญไม่ต่างจากผู้ถูกเหยียดหยามแม้แต่น้อย