นักซิ่งกวนเมืองหรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าเด็กแว้น เป็นปัญหาเรื้อรัง คาราคาซังในสังคมไทยมาหลายสิบปี เด็กแว้นเหล่านี้นอกจากจะสร้างอันตรายบนท้องถนนจากการขับขี่ที่ไม่เคารพกฏแล้ว เสียงเครื่องยนต์จากพาหนะของพวกเขายังสร้างความเดือดร้อนรำคาญไปทั่วอีกด้วย แถมเยาวชนที่ก้าวเข้าสู่การเป็นเด็กแว้นยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ยาเสพย์ติด และการพนัน ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาสังคมในอนาคต รัฐบาลไทยมองว่าเรื่องนี้ควรต้องได้รับการจัดการ จึงออกยาแรงสั่งให้ทุกจังหวัดจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ภายใต้ประกาศิตที่ว่า “เด็กแว้นต้องหมดจากเมืองไทยภายใน 4-5 เดือน”
มาตรการเด็ดของรัฐบาลในการปราบปรามเด็กแว้นปีพ.ศ.2562 ก็คือ
1.ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสการกระทำผิด เบาะแสที่ประชาชนแจ้งจะเข้าสู่หน่วยงานส่วนกลาง และสน.ในพื้นที่เพื่อป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน (ในอนาคตเชื่อว่าอาจมีรางวัลนำจับด้วย)
2.จับปรับผู้กระทำความผิดและยึดของกลางในการกระทำความผิด
3.พ่อแม่ผู้ปกครองต้องถูกระวางโทษฐานปล่อยปละละเลยให้เยาวชนในความดูแลออกไปสร้างความเดือดร้อนแก่สังคม
4.หากมีเด็กแว้นในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจใดเจ้าหน้าที่จะถูกลงโทษฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทั้ง 4 มาตรการหลัก ๆ นี้เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายแข็งขันแจ้งจริงจับจริง จะลดปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากเด็กแว้น ลดปัญหาด้านยาเสพย์ติด และอาชญากรรมลงไปได้มากทีเดียว ทั้งนี้นอกจากความเห็นพ้องต้องกันของสังคมในการลดปัญหาดังกล่าวก็ยังมีความห่วงใยของหลายภาคส่วน อันเป็นความเห็นแบบสวนกระแสเล็ก ๆ ว่ายาแรงนี้อาจทำให้ปัญหาทุเลาเบาบางลงไปในช่วงแรกก็จริง แต่อาจจะกลายเป็นระเบิดเวลาในระยะยาวได้ เช่น เด็กแว้นอาจจะหลบลี้หนีไปรวมตัวกันในสถานที่ลับตายิ่งกว่าเดิม อาจแสดงออกถึงความรุนแรงด้านอื่น หรือแม้กระทั่งทำลายทรัพย์สินราชการ เพื่อเป็นการประท้วงมาตรการของรัฐ เป็นต้น
ดังนั้นหลายฝ่ายเชื่อว่าการสั่งห้ามอย่างเดียวอาจไม่พอ ควรมีสถานที่หรือการแข่งขันอย่างเป็นทางการเพื่อรองรับวัยรุ่นที่นิยมชมชอบความเร็วจริง ๆ ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือเปลี่ยนจากการแข่งขันบนท้องถนนให้เป็นการแข่งขันในสถานที่เฉพาะ และส่งเสริมอัพเกรดเด็ก ๆ เหล่านี้ให้กลายเป็นนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตไปเลย แนวความคิดนี้มีผู้คนในสังคมจำนวนมากที่เห็นด้วยโดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นเด็กแว้น เนื่องจากเห็นว่าเด็กแว้นก็ไม่ได้ต่างจากเด็กทั่วไปที่แสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ เพียงเพราะต้องการการยอมรับ ซึ่งหากพวกเขาได้รับเกียรติให้เป็นนักกีฬา มีรางวัล มีอนาคตในด้านสว่างจะช่วยให้พวกเขาห่างไกลจากสังคมด้านมืด และเป็นตัวอย่างที่ดีให้เยาวชนรุ่นหลังในระยะยาวอีกด้วย
แนวคิดเปลี่ยนเด็กแว้นให้กลายเป็นนักกีฬาในตอนนี้นักธุรกิจน้อยใหญ่จำนวนมากมองว่าเป็นไปได้สูง และน่าจะนำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลด้วย แถมเด็ก ๆ เหล่านี้ยังอาจต่อยอดไปถึงระดับท็อปของวงการมอเตอร์สปอร์ตได้ถ้าหากถูกฟูมฟักตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งนักลงทุนจำนวนมากรอดูท่าทีของรัฐอยู่ ว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้เด็กแว้นหมดทางไป จนต้องหันหน้าไปพึ่งสนามแข่งขันได้จริงหรือเปล่า ถ้าทำได้จริงอนาคตกีฬามอเตอร์สปอร์ตสองล้อในไทยต้องบอกว่ามีทิศทางที่สดใสเลยทีเดียว