เพียงแค่เริ่มต้นปี 2020 ได้ไม่กี่วัน “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ก็สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับตัวเอง ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถยิงแฮตทริกได้ถึง 10 รายการแข่งขันทั่วโลก ประกอบไปด้วยกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี, ลาลีกา สเปน, โกปา เดล เรย์, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, สโมสรโลก, ฟุตบอลโลก, ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก, ฟุตบอลยูโรรอบคัดเลือก และยูฟ่า เนชั่นส์ลีก
ยูเวนตุสมีโปรแกรมประเดิมศักราชใหม่ด้วยการเปิดบ้านต้องรับกายารี โดยนัดนี้ทีมม้าลายอัดผู้มาเยือนไปขาดลอย 4-0 โดยโรนัลโด้เป็นผู้ยิงประตูแรกของเกมในนาทีที่ 49 โดยประตูดังกล่าวส่งให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถทำประตูใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรปได้ 18 ปีติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่เขาทำประตูแรกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยลูกยิงฟรีคิกใส่พอร์ทสมัธ เมื่อปี 2003 แถมยังทำเพิ่มได้อีก 2 ประตู เป็นการปลดล็อคแฮตทริกแรกในแดนมักโรนีให้ตัวเองได้สำเร็จ นับเป็นนักเตะโปรตุเกสคนแรกที่ทำได้อีกด้วย ทั้งนี้โรนัลโด้ยังถือเป็นนักเตะรายที่สองที่ยิงแฮตทริกได้ในพรีเมียร์ลีก, ลาลีกา และกัลโช่ เซเรียอา ต่อจากอเล็กซิส ซานเชซ ศูนย์หน้าทีมชาติชิลี
ปัจจุบันโรนัลโด้ถือเป็นนักเตะที่ยังเล่นอยู่ ที่ยิงแฮตทริกมากที่สุดในโลก เรียกได้ว่าทุกครั้งที่ทำได้เรียกเสียงเฮจากเหล่านักพนันบนเว็บ VWIN กันสนั่นเว็บ จากการทำไปทั้งสิ้น 56 ครั้ง เหนือกว่าลิโอเนล เมสซี่ ที่ตามมาไม่ห่าง 53 ครั้ง จำนวนแฮตทริกทั้งหมดของกัปตันทีมชาติโปรตุเกสแบ่งเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 ครั้ง, เรอัล มาดริด 44 ครั้ง, ยูเวนตุส 2 ครั้ง และทีมชาติโปรตุเกส 9 ครั้ง โดยแฮตทริกแรกของเขาเกิดขึ้นเมื่อปี 2008 สมัยที่ยังค้าแข้งอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดที่ปีศาจแดงถล่มนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดไปถึง 6-0 ซึ่งนัดนั้นโรนัลโด้ทำประตูแรกได้จากลูกยิงฟรีคิก ก่อนจะมาทำประตูที่สองด้วยเท้าขวา และประตูที่สามจากการยิงด้วยเท้าซ้าย
หลังจากที่ย้ายไปเล่นให้กับเรอัล มาดริด โรนัลโด้ก็สถาปนาตัวเองเป็นเจ้าพ่อแฮตทริกอย่างเต็มตัว โดยทำแฮตทริกได้ทุกรายการที่ลงแข่งขัน ทั้งแฮตทริกแรกในลาลีกา เมื่อปี 2010, แฮตทริกแรกในโกปา เดล เรย์ เมื่อปี 2010, แฮตทริกแรกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2012 และแฮตทริกแลกในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก เมื่อปี 2016 รวมไปถึงแฮตทริกแรกในนามทีมชาติจากศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่พบกับไอร์แลนด์เหนือ เมื่อปี 2013
แม้อายุจะเฉียดใกล้ 35 ปีเข้าไปแล้ว แต่โรนัลโด้ก็ยังโชว์ฟอร์มในสนามได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีลุ้นสร้างสถิติอีกมากมายในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักเตะคนแรกที่เป็นดาวซัลโวประจำลีกอังกฤษ สเปน และอิตาลี, นักเตะคนแรกที่ยิงแฮตทริก 10 ครั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยปัจจุบันหยุดอยู่ที่ 8 ครั้ง รวมไปถึงนักเตะที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุดเป็นสมัยที่ 6 เทียบเท่ากับฟรานซิสโก้ เกนโต้ นักเตะตำนานของเรอัล มาดริด ซึ่งหากโรนัลโด้สามารถพายูเวนตุสคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จะกลายเป็นนักเตะต่อจากคลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ที่สามารถคว้าถ้วยแชมป์บิ๊กเอียร์ได้กับ 3 สโมสร